ทันตกรรมรักษารากฟัน Endodontics dentistry
การรักษาการติดเชื้อในโพรงประสาทฟันหรือเนื้อเยื่ออ่อนภายในฟัน โดยการรักษารากฟันจะมุ่งเน้นไปที่การกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและทำความสะอาดคลองรากฟัน จากนั้นจึงอุดคลองรากฟันเพื่อปิดกั้นไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่โพรงประสาทฟันได้อีก
การรักษารากฟันมักใช้ในกรณีที่ฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันจนทำให้เนื้อเยื่อภายในฟันอักเสบหรือติดเชื้อ การรักษารากฟันสามารถช่วยรักษาฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอนออก อย่างไรก็ตาม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้ฟันผุลุกลามไปยังกระดูกรอบ ๆ ฟัน จนทำให้ต้องถอนฟันในที่สุด
การรักษารากฟันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะของการรักษา
ขั้นตอนการรักษารากฟันโดยทั่วไป
-
ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันเพื่อเปิดทางเข้าสู่โพรงประสาทฟัน
-
ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษในการกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและทำความสะอาดคลองรากฟัน
-
ทันตแพทย์จะใช้วัสดุอุดคลองรากฟัน
-
ทันตแพทย์จะบูรณะฟันให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
-
การรักษารากฟันอาจใช้เวลาหลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน โดยทั่วไปแล้ว การรักษารากฟันจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล
หลังการรักษารากฟันแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลรักษาฟันให้ดี เพื่อให้ฟันที่รักษาไว้มีอายุการใช้งานยาวนาน การดูแลรักษาฟันหลังการรักษารากฟันมีดังนี้
-
แปรงฟันและ floss เป็นประจำทุกวัน
-
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
-
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟัน
-
บางรายอาจต้องทำเดือยฟันและครอบฟันเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตัวฟัน
รักษารากฟันส่วนต้น Vital pulp therapy
การรักษารากฟันส่วนต้น (Vital pulp therapy) เป็นการรักษาฟันที่มีอาการปวดฟัน เนื่องจากเนื้อเยื่อในฟันอักเสบหรือติดเชื้อ แต่เนื้อเยื่อในฟันยังไม่ตาย โดยการรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและทำความสะอาดคลองรากฟัน จากนั้นจึงปิดกั้นไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่โพรงประสาทฟันได้อีก
การรักษารากฟันส่วนต้นมักใช้ในกรณีที่ฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันเพียงเล็กน้อย โดยการรักษาสามารถช่วยรักษาฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอนออก อย่างไรก็ตาม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เนื้อเยื่อในฟันตายและจำเป็นต้องรักษารากฟันแบบเต็มคลองรากฟันต่อไป
ขั้นตอนการรักษารากฟันส่วนต้น มีดังนี้
-
ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันเพื่อเปิดทางเข้าสู่โพรงประสาทฟัน
-
ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษในการกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและทำความสะอาดคลองรากฟัน
-
ทันตแพทย์จะใช้วัสดุอุดฟันหรือวัสดุอื่น ๆ เพื่ออุดคลองรากฟัน
-
ทันตแพทย์จะบูรณะฟันให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
การรักษารากฟันส่วนต้นโดยทั่วไปจะใช้เวลาเพียง 1 ครั้ง ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า
ข้อดีของการรักษารากฟันส่วนต้น
-
ช่วยรักษาฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอนออก
-
ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าการรักษารากฟันแบบเต็มคลองรากฟัน
-
มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษารากฟันแบบเต็มคลองรากฟัน
ผู้ที่เหมาะจะทำการรักษารากฟันส่วนต้น
-
ผู้ที่มีอาการปวดฟัน เนื่องจากเนื้อเยื่อในฟันอักเสบหรือติดเชื้อ แต่เนื้อเยื่อในฟันยังไม่ตาย
-
ผู้ที่ไม่อยากถอนฟัน
-
ผู้ที่มีอาการอักเสบเล็กน้อย ยังไม่มีตุ่มหนองหรืออาการฟันตาย
การรักษารากฟันส่วนต้นมักใช้ในกรณีที่ฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันเพียงเล็กน้อย หากฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันมากจนทำให้เนื้อเยื่อในฟันตาย การรักษารากฟันส่วนต้นอาจไม่ประสบความสำเร็จและจำเป็นต้องรักษารากฟันแบบเต็มคลองรากฟันต่อไป
หลังการรักษารากฟันส่วนต้นแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลรักษาฟันให้ดี เพื่อให้ฟันที่รักษาไว้มีอายุการใช้งานยาวนาน การดูแลรักษาฟันหลังการรักษารากฟันส่วนต้นมีดังนี้
-
แปรงฟันและ floss เป็นประจำทุกวัน
-
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
-
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันตามนัดหมาย
*** หากมีอาการปวดฟันหรือมีปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับฟันที่รักษารากฟันส่วนต้น ควรพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที ***
รักษารากฟันทั้งหมด Root canal treatment
การรักษารากฟันทั้งหมด (Full root canal treatment) เป็นการรักษาฟันที่มีอาการปวดฟัน เนื่องจากเนื้อเยื่อในฟันอักเสบหรือติดเชื้อจนทำให้เนื้อเยื่อในฟันตาย โดยการรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วและทำความสะอาดคลองรากฟัน จากนั้นจึงอุดคลองรากฟันเพื่อปิดกั้นไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่โพรงประสาทฟันได้อีก
การรักษารากฟันทั้งหมดมักใช้ในกรณีที่ฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันจนทำให้เนื้อเยื่อในฟันตาย โดยการรักษาสามารถช่วยรักษาฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอนออก อย่างไรก็ตาม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้ฟันผุลุกลามเข้าไปในกระดูกรอบ ๆ ฟัน จนทำให้ต้องถอนฟันในที่สุด
ขั้นตอนการรักษารากฟันทั้งหมด มีดังนี้
-
ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันเพื่อเปิดทางเข้าสู่โพรงประสาทฟัน
-
ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษในการกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วและทำความสะอาดคลองรากฟัน
-
ทันตแพทย์จะใช้วัสดุอุดฟันหรือวัสดุอื่น ๆ เพื่ออุดคลองรากฟัน
-
ทันตแพทย์จะบูรณะฟันให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
การรักษารากฟันทั้งหมดอาจใช้เวลาหลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน โดยทั่วไปแล้ว การรักษารากฟันทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล
หลังการรักษารากฟันทั้งหมดแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลรักษาฟันให้ดี เพื่อให้ฟันที่รักษาไว้มีอายุการใช้งานยาวนาน การดูแลรักษาฟันหลังการรักษารากฟันทั้งหมดมีดังนี้
-
แปรงฟันและ floss เป็นประจำทุกวัน
-
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
-
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันตามนัดหมาย
-
ในบางรายอาจจำเป็นต้องใส่เดือยฟันและครอบฟันเพื่อเพิ่มความแข็งแรงหลังการรักษาคลองรากฟัน
ผู้ที่เหมาะจะทำการรักษารากฟันทั้งหมด
-
ผู้ที่มีอาการปวดฟัน เนื่องจากเนื้อเยื่อในฟันอักเสบหรือติดเชื้อจนทำให้เนื้อเยื่อในฟันตาย
-
ผู้ที่ไม่อยากถอนฟัน
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกการรักษารากฟัน
-
ความรุนแรงของการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน
-
ตำแหน่งของฟัน สภาพฟันซี่อื่น ๆ ในช่องปาก
-
สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
-
เนื้อฟันที่เหลืออยู่เป็นตัวพิจารณาสำหรับการบูรณะหลังการรักษาคลองรากฟัน
** ผู้ป่วยควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินปัจจัยเหล่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจรักษารากฟัน **
การรักษารากฟันทั้งหมดมักใช้ในกรณีที่ฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันจนทำให้เนื้อเยื่อในฟันตาย หากฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันเพียงเล็กน้อย การรักษารากฟันส่วนต้นอาจประสบความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม หากฟันผุลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟันมากจนทำให้เนื้อเยื่อในฟันตาย การรักษารากฟันส่วนต้นอาจไม่ประสบความสำเร็จและจำเป็นต้องรักษารากฟันแบบเต็มคลองรากฟันต่อไป