top of page

ทันตกรรมเพื่อความสวยงาม Esthetics dentistry

คลินิกทันตกรรม ไดมอนด์เดนท์ ให้บริการทันตกรรมเพื่อความสวยงาม Esthetics dentistry เป็นทันตกรรมที่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันและรอยยิ้ม การรักษาทันตกรรมเพื่อความสวยงามมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาเฉพาะของคนไข้ 

asian-woman-is-having-routine-dental-exam-dental-clinic.jpg

บริการทันตกรรมเพื่อความสวยงาม Esthetics dentistry ที่คลินิกทันตกรรม ไดมอนด์เดนท์

ฟอกสีฟันเลเซอร์ laser tooth whitening

         การฟอกสีฟันเลเซอร์ (Laser tooth whitening) เป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรม โดยใช้แสงเลเซอร์ไดโอดมากระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันแตกตัว ช่วยให้แทรกซึมเข้าไปในผิวฟันได้ดีขึ้น ทำให้ขจัดคราบและเม็ดสีบนผิวฟันได้อย่างรวดเร็ว
 

ฟอกสีฟันเลเซอร์ laser tooth whitening.jpg

  1. ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนก่อนเริ่มการรักษา 

  2. ทันตแพทย์จะกั้นริมฝีปากและเหงือกด้วยยางเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับเหงือก 

  3. ทันตแพทย์จะทาน้ำยาฟอกสีฟันลงบนผิวฟัน 

  4. ทันตแพทย์จะฉายแสงเลเซอร์ไปที่ผิวฟันเป็นเวลาประมาณ 15-30 นาที จนครบ 3 รอบ

  5. ทันตแพทย์จะล้างน้ำยาฟอกสีฟันออก


   การฟอกสีฟันเลเซอร์ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปฟันจะขาวขึ้นประมาณ 2-8 เฉดสี ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันเลเซอร์จะคงอยู่ได้ประมาณ 8 เดือน - 1 ปี

ขั้นตอนการฟอกสีฟันเลเซอร์

        การฟอกสีฟันเลเซอร์เป็นวิธีการฟอกสีฟันที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้หลายเฉดสี โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีฟันเดิม

ข้อดีของการฟอกสีฟันเลเซอร์ มีดังนี้

  • ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว การฟอกสีฟันเลเซอร์สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง

  • มีประสิทธิภาพสูง การฟอกสีฟันเลเซอร์สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้หลายเฉดสี

  • ปลอดภัย การฟอกสีฟันเลเซอร์ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำ จึงมีความปลอดภัยสูง

  • ไม่ทำลายเคลือบฟัน การฟอกสีฟันเลเซอร์ไม่ทำลายเคลือบฟัน

  • ผู้ที่มีปัญหาฟันเหลืองจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มชาหรือกาแฟ การรับประทานอาหารที่มีสีเข้ม เป็นต้น

  • ผู้ที่มีปัญหาฟันคล้ำจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การรับประทานยาบางชนิด การใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์มากเกินไป การได้รับอุบัติเหตุหรือการรักษาทางทันตกรรม

  • ผู้ที่มีปัญหาฟันมีคราบชาหรือกาแฟ

ใครที่เหมาะกับการฟอกสีฟันเลเซอร์ ?

         การฟอกสีฟันเลเซอร์เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันมีคราบชาหรือกาแฟ เป็นต้น โดยควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินว่าการฟอกสีฟันเลเซอร์เหมาะสมกับคุณหรือไม่

Review ฟอกสีฟัน

young-woman-does-home-teeth-whitening-procedure-whitening-tray-with-gel (3).jpg

ฟอกสีฟันที่บ้าน home bleaching

  เป็นการฟอกสีฟันด้วยตนเอง สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ฟัน เพื่อนำไปสร้างถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล จากนั้นคนไข้จะนำถาดฟอกสีฟันใส่น้ำยาฟอกสีฟันแล้วสวมใส่ในปากเป็นเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีฟันเดิม

  1. ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเริ่มฟอกสีฟัน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและรับคำแนะนำที่เหมาะสม 

  2. เตรียมถาดฟอกสีฟันให้พอดีกับฟัน โดยทาวาสลีนหรือเจลหล่อลื่นรอบ ๆ ขอบถาดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับเหงือก 

  3. ใส่น้ำยาฟอกสีฟันลงในถาดฟอกสีฟัน 

  4. ใส่ถาดฟอกสีฟันเข้าไปในปากและกัดให้แน่น 

  5. ฟอกสีฟันอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง ต่อวัน เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ 

  6. ล้างปากให้สะอาดหลังจากฟอกสีฟัน

 

    การฟอกสีฟันที่บ้านใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปฟันจะขาวขึ้นประมาณ   2-8 เฉดสี ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันที่บ้านจะคงอยู่ได้ประมาณ 8 เดือน - 1 ปี

ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้าน

close-up-hands-wearing-protective-gloves.jpg

  • ผู้ที่มีฟันสีคล้ำจากคราบบุหรี่ ชา กาแฟ หรืออาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม 

  • ผู้ที่ต้องการทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะเห็นผล

ผู้ที่เหมาะกับการฟอกสีฟันที่บ้าน

  • ไม่ควรฟอกสีฟันหากมีฟันผุหรือเหงือกอักเสบ 

  • ไม่ควรฟอกสีฟันหากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร 

  • ไม่ควรฟอกสีฟันหากกำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) 

  • ควรฟอกสีฟันอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของทันตแพทย์
    *** หากมีอาการเสียวฟันหรืออาการอื่น ๆ ขณะฟอกสีฟัน ควรหยุดฟอกสีฟันและปรึกษาทันตแพทย์ ***

ข้อควรระวังในการฟอกสีฟันที่บ้าน

ครอบฟัน/ สะพานฟัน Crowns and bridges

       ครอบฟัน/ สะพานฟัน Crowns and bridges เป็นฟันเทียมที่ยึดติดกับฟันธรรมชาติหรือรากฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันที่เสียหายหรือสูญเสียไป ครอบฟันและสะพานฟันสามารถช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์และประสิทธิภาพการบดเคี้ยวของฟันได้

metal-free-ceramic-dental-crowns-ceramic-zirconium-final-version-staining-glazing-precisio

ครอบฟัน คือ ฟันปลอมที่ครอบทับฟันธรรมชาติทั้งซี่ ครอบฟันมักทำจากเซรามิกหรือโลหะ ครอบฟันสามารถช่วยปกป้องฟันธรรมชาติที่เสียหายจากการแตกหักหรือผุได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันที่แตกหักหรือเปลี่ยนสีได้

 

สะพานฟัน คือ ฟันปลอมที่ยึดติดกับฟันธรรมชาติสองซี่ที่อยู่ติดกัน สะพานฟันมักทำจากเซรามิกหรือโลหะ สะพานฟันสามารถช่วยทดแทนฟันที่สูญเสียไปหนึ่งซี่หรือมากกว่าได้

  • ครอบฟันและสะพานฟันเซรามิก เป็นครอบฟันและสะพานฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความแข็งแรงและสวยงามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ทำจากเซรามิกล้วนทั้งชิ้น

  • ครอบฟันและสะพานฟันโลหะ เป็นครอบฟันและสะพานฟันที่มีความแข็งแรง แต่ไม่สวยงามเท่าเซรามิก แนะนำทำในฟันกรามหลัง แต่อาจไม่สวยงามเท่า ครอบฟันและสะพานฟันโลหะมักทำจากทองคำ โครเมียม-โคบอลต์ หรือไทเทเนียม

ประเภทของครอบฟันและสะพานฟัน

  • ฟันแตก ฟันบิ่น ฟันหัก ฟันร้าว

  • ฟันผุรุนแรงจนไม่สามารถอุดฟันได้

  • ฟันที่ผ่านการรักษารากฟัน

  • ฟันที่มีรูปร่างหรือสีไม่สมส่วน

  • ฟันที่ต้องใช้สะพานฟันเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป

        การครอบฟันจะช่วยปกป้องฟันที่เสียหาย ช่วยเสริมความแข็งแรงของฟัน และช่วยให้ฟันกลับมาใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ การครอบฟันยังช่วยปรับปรุงรูปทรงและสีของฟันให้ดูสวยงามขึ้นได้อีกด้วย

การครอบฟันเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟัน ดังนี้

  1. ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันซี่ที่ต้องการทำครอบฟันให้เป็นรูปทรงที่เหมาะสม

  2. ทันตแพทย์จะทำพิมพ์ฟันเพื่อนำไปสร้างครอบฟัน

  3. ทันตแพทย์จะส่งพิมพ์ฟันไปที่ห้องแล็บ เพื่อให้ช่างทันตกรรมสร้างครอบฟันขึ้นมา

  4. ทันตแพทย์จะนัดคนไข้มาใส่ครอบฟัน

ระยะเวลาในการทำครอบฟันประมาณ 2-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาฟัน

ขั้นตอนการทำครอบฟันมีดังนี้

  • แปรงฟันและ floss เป็นประจำทุกวัน 

  • หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว 

  • หลีกเลี่ยงการกัดเล็บหรือของแข็งอื่น ๆ 

  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและอุดฟันตามนัดหมาย

การดูแลรักษาครอบฟันและสะพานฟันให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

*** หากมีอาการเสียวฟันหรือปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับครอบฟันหรือสะพานฟัน ควรพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

model-teeth-dentists-explain-various-tooth-diseases-problems-grey-background.jpg

ฟันปลอมถอดได้ Removable dentures

 ฟันเทียมที่มีลักษณะคล้ายฟันธรรมชาติ แต่สามารถถอดออกได้ ฟันปลอมถอดได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามจำนวนฟันที่ต้องใส่เพื่อทดแทนฟันแท้ ได้แก่

 

ฟันปลอมบางส่วน (Partial denture) ใช้ในผู้ที่สูญเสียฟันบางซี่หรือบางแถว ฟันปลอมบางส่วนจะยึดติดกับฟันธรรมชาติด้วยตะขอโลหะหรือด้วยฐานพลาสติกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
 

ฟันปลอมทั้งปาก (Full denture) ใช้ในผู้ที่สูญเสียฟันแท้ทั้งปาก ฟันปลอมทั้งปากจะยึดติดกับเหงือกด้วยฐานพลาสติกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
 

  • ฟันปลอมฐานพลาสติก เป็นฟันปลอมที่ทำจากฐานพลาสติกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีซี่ฟันที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ฟันปลอมฐานพลาสติกเป็นฟันปลอมถอดได้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาไม่แพงและดูแลรักษาง่าย

  • ฟันปลอมฐานโลหะ เป็นฟันปลอมที่ทำจากฐานโลหะที่แข็งแรงกว่าฐานพลาสติก มีซี่ฟันที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ฟันปลอมฐานโลหะมีความแข็งแรงกว่าฟันปลอมฐานพลาสติก แต่อาจไม่สวยงามเท่า

  • ฟันปลอม Valplast เป็นฟันปลอมที่ทำจากฐานพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง มีซี่ฟันที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ฟันปลอม Valplast มีความยืดหยุ่นสูง จึงสวมใส่สบายกว่าฟันปลอมฐานพลาสติกหรือฐานโลหะ

ฟันปลอมถอดได้สามารถแบ่งออกตามประเภทของวัสดุที่ใช้ทำได้ดังนี้

การดูแลรักษาฟันปลอมถอดได้ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

  • ถอดฟันปลอมออกก่อนนอนและทำความสะอาดด้วยแปรงสีฟันและน้ำสบู่

  • ล้างฟันปลอมด้วยน้ำสะอาดหลังจากรับประทานอาหาร

  • เก็บฟันปลอมไว้ในภาชนะที่มีน้ำสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม

  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและอุดฟันตามนัดหมาย

*** หากมีอาการเสียวฟันหรือปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับฟันปลอมถอดได้ ควรพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

ก่อนตัดสินใจทำฟันปลอมถอดควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินความต้องการและปัญหาเฉพาะของตนเอง ทันตแพทย์จะแนะนำประเภทของฟันปลอมที่เหมาะสมและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ***
 

วีเนียร์ veneers

         วีเนียร์เป็นแผ่นเคลือบบาง ๆ ที่วางทับฟันหน้าเพื่อปกปิดรอยแตก ฟันผุ หรือสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอ วีเนียร์ทำจากวัสดุที่หลากหลาย เช่น เซรามิกหรือคอมโพสิต
 

วีเนียร์ veneers.jpg

วีเนียร์มีสองประเภทหลัก ๆ คือ

  • วีเนียร์เซรามิก เป็นวีเนียร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความแข็งแรงและสวยงามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ทำจากเซรามิกล้วนทั้งชิ้น

  • วีเนียร์คอมโพสิ เป็นวีเนียร์ที่ทำจากวัสดุคอมโพสิต วีเนียร์คอมโพสิตมีความแข็งแรงน้อยกว่าวีเนียร์เซรามิก แต่มีราคาที่ถูกกว่า

วีเนียร์เซรามิก (Ceramic veneers)

เป็นแผ่นวัสดุที่ทำจากเซรามิกที่มีความบาง นำมาติดบนผิวหน้าของฟัน เพื่อแก้ไขความผิดปกติของฟัน เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น วีเนียร์เซรามิกสามารถทำให้ฟันดูขาวขึ้น เรียงตัวสวยงาม และสม่ำเสมอกัน

  • สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ วีเนียร์เซรามิกมีความโปร่งแสงใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ

  • แข็งแรงทนทาน วีเนียร์เซรามิกมีความแข็งแรงทนทานต่อการแตกหัก

  • สามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย วีเนียร์เซรามิกสามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น

วีเนียร์คอมโพสิต (Composite veneers)

เป็นแผ่นวัสดุที่ทำจากคอมโพสิต ซึ่งเป็นวัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้ในการอุดฟัน นำมาติดบนผิวหน้าของฟัน เพื่อแก้ไขความผิดปกติของฟัน เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น วีเนียร์คอมโพสิตสามารถทำให้ฟันดูขาวขึ้น เรียงตัวสวยงาม และสม่ำเสมอกัน

วีเนียร์คอมโพสิต.jpeg
  • ค่าใช้จ่ายไม่สูง วีเนียร์คอมโพสิตมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวีเนียร์เซรามิก

  • ใช้เวลาในการรักษาน้อย วีเนียร์คอมโพสิตสามารถดำเนินการได้ภายในวันเดียว

  • สามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย วีเนียร์คอมโพสิตสามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น

        วีเนียร์เซรามิกและวีเนียร์คอมโพสิตต่างก็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความผิดปกติของฟัน แต่ก็มีความแตกต่างในคุณสมบัติและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป การเลือกวีเนียร์ที่เหมาะสมควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินสภาพฟันและความต้องการของคุณ

bottom of page