ทันตกรรมเพื่อความสวยงาม Esthetics dentistry
คลินิกทันตกรรม ไดมอนด์เดนท์ ให้บริการทันตกรรมเพื่อความสวยงาม Esthetics dentistry เป็นทันตกรรมที่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันและรอยยิ้ม การรักษาทันตกรรมเพื่อความสวยงามมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาเฉพาะของคนไข้
ฟอกสีฟันเลเซอร์ laser tooth whitening
การฟอกสีฟันเลเซอร์ (Laser tooth whitening) เป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรม โดยใช้แสงเลเซอร์ไดโอดมากระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันแตกตัว ช่วยให้แทรกซึมเข้าไปในผิวฟันได้ดีขึ้น ทำให้ขจัดคราบและเม็ดสีบนผิวฟันได้อย่างรวดเร็ว
-
ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนก่อนเริ่มการรักษา
-
ทันตแพทย์จะกั้นริมฝีปากและเหงือกด้วยยางเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับเหงือก
-
ทันตแพทย์จะทาน้ำยาฟอกสีฟันลงบนผิวฟัน
-
ทันตแพทย์จะฉายแสงเลเซอร์ไปที่ผิวฟันเป็นเวลาประมาณ 15-30 นาที จนครบ 3 รอบ
-
ทันตแพทย์จะล้างน้ำยาฟอกสีฟันออก
การฟอกสีฟันเลเซอร์ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปฟันจะขาวขึ้นประมาณ 2-8 เฉดสี ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันเลเซอร์จะคงอยู่ได้ประมาณ 8 เดือน - 1 ปี
ขั้นตอนการฟอกสีฟันเลเซอร์
การฟอกสีฟันเลเซอร์เป็นวิธีการฟอกสีฟันที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้หลายเฉดสี โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีฟันเดิม
ข้อดีของการฟอกสีฟันเลเซอร์ มีดังนี้
-
ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว การฟอกสีฟันเลเซอร์สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง
-
มีประสิทธิภาพสูง การฟอกสีฟันเลเซอร์สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้หลายเฉดสี
-
ปลอดภัย การฟอกสีฟันเลเซอร์ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำ จึงมีความปลอดภัยสูง
-
ไม่ทำลายเคลือบฟัน การฟอกสีฟันเลเซอร์ไม่ทำลายเคลือบฟัน
-
ผู้ที่มีปัญหาฟันเหลืองจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มชาหรือกาแฟ การรับประทานอาหารที่มีสีเข้ม เป็นต้น
-
ผู้ที่มีปัญหาฟันคล้ำจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การรับประทานยาบางชนิด การใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์มากเกินไป การได้รับอุบัติเหตุหรือการรักษาทางทันตกรรม
-
ผู้ที่มีปัญหาฟันมีคราบชาหรือกาแฟ
ใครที่เหมาะกับการฟอกสีฟันเลเซอร์ ?
การฟอกสีฟันเลเซอร์เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันมีคราบชาหรือกาแฟ เป็นต้น โดยควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินว่าการฟอกสีฟันเลเซอร์เหมาะสมกับคุณหรือไม่
Review ฟอกสีฟัน
ฟอกสีฟันที่บ้าน home bleaching
เป็นการฟอกสีฟันด้วยตนเอง สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ฟัน เพื่อนำไปสร้างถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล จากนั้นคนไข้จะนำถาดฟอกสีฟันใส่น้ำยาฟอกสีฟันแล้วสวมใส่ในปากเป็นเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีฟันเดิม
-
ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเริ่มฟอกสีฟัน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและรับคำแนะนำที่เหมาะสม
-
เตรียมถาดฟอกสีฟันให้พอดีกับฟัน โดยทาวาสลีนหรือเจลหล่อลื่นรอบ ๆ ขอบถาดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับเหงือก
-
ใส่น้ำยาฟอกสีฟันลงในถาดฟอกสีฟัน
-
ใส่ถาดฟอกสีฟันเข้าไปในปากและกัดให้แน่น
-
ฟอกสีฟันอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง ต่อวัน เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์
-
ล้างปากให้สะอาดหลังจากฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันที่บ้านใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปฟันจะขาวขึ้นประมาณ 2-8 เฉดสี ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันที่บ้านจะคงอยู่ได้ประมาณ 8 เดือน - 1 ปี
ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้าน
-
ผู้ที่มีฟันสีคล้ำจากคราบบุหรี่ ชา กาแฟ หรืออาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม
-
ผู้ที่ต้องการทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะเห็นผล
ผู้ที่เหมาะกับการฟอกสีฟันที่บ้าน
-
ไม่ควรฟอกสีฟันหากมีฟันผุหรือเหงือกอักเสบ
-
ไม่ควรฟอกสีฟันหากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
-
ไม่ควรฟอกสีฟันหากกำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
-
ควรฟอกสีฟันอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของทันตแพทย์
*** หากมีอาการเสียวฟันหรืออาการอื่น ๆ ขณะฟอกสีฟัน ควรหยุดฟอกสีฟันและปรึกษาทันตแพทย์ ***
ข้อควรระวังในการฟอกสีฟันที่บ้าน
ครอบฟัน/ สะพานฟัน Crowns and bridges
ครอบฟัน/ สะพานฟัน Crowns and bridges เป็นฟันเทียมที่ยึดติดกับฟันธรรมชาติหรือรากฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันที่เสียหายหรือสูญเสียไป ครอบฟันและสะพานฟันสามารถช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์และประสิทธิภาพการบดเคี้ยวของฟันได้
ครอบฟัน คือ ฟันปลอมที่ครอบทับฟันธรรมชาติทั้งซี่ ครอบฟันมักทำจากเซรามิกหรือโลหะ ครอบฟันสามารถช่วยปกป้องฟันธรรมชาติที่เสียหายจากการแตกหักหรือผุได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันที่แตกหักหรือเปลี่ยนสีได้
สะพานฟัน คือ ฟันปลอมที่ยึดติดกับฟันธรรมชาติสองซี่ที่อยู่ติดกัน สะพานฟันมักทำจากเซรามิกหรือโลหะ สะพานฟันสามารถช่วยทดแทนฟันที่สูญเสียไปหนึ่งซี่หรือมากกว่าได้
-
ครอบฟันและสะพานฟันเซรามิก เป็นครอบฟันและสะพานฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความแข็งแรงและสวยงามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ทำจากเซรามิกล้วนทั้งชิ้น
-
ครอบฟันและสะพานฟันโลหะ เป็นครอบฟันและสะพานฟันที่มีความแข็งแรง แต่ไม่สวยงามเท่าเซรามิก แนะนำทำในฟันกรามหลัง แต่อาจไม่สวยงามเท่า ครอบฟันและสะพานฟันโลหะมักทำจากทองคำ โครเมียม-โคบอลต์ หรือไทเทเนียม
ประเภทของครอบฟันและสะพานฟัน
-
ฟันแตก ฟันบิ่น ฟันหัก ฟันร้าว
-
ฟันผุรุนแรงจนไม่สามารถอุดฟันได้
-
ฟันที่ผ่านการรักษารากฟัน
-
ฟันที่มีรูปร่างหรือสีไม่สมส่วน
-
ฟันที่ต้องใช้สะพานฟันเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป
การครอบฟันจะช่วยปกป้องฟันที่เสียหาย ช่วยเสริมความแข็งแรงของฟัน และช่วยให้ฟันกลับมาใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ การครอบฟันยังช่วยปรับปรุงรูปทรงและสีของฟันให้ดูสวยงามขึ้นได้อีกด้วย
การครอบฟันเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟัน ดังนี้
-
ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันซี่ที่ต้องการทำครอบฟันให้เป็นรูปทรงที่เหมาะสม
-
ทันตแพทย์จะทำพิมพ์ฟันเพื่อนำไปสร้างครอบฟัน
-
ทันตแพทย์จะส่งพิมพ์ฟันไปที่ห้องแล็บ เพื่อให้ช่างทันตกรรมสร้างครอบฟันขึ้นมา
-
ทันตแพทย์จะนัดคนไข้มาใส่ครอบฟัน
ระยะเวลาในการทำครอบฟันประมาณ 2-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาฟัน
ขั้นตอนการทำครอบฟันมีดังนี้
-
แปรงฟันและ floss เป็นประจำทุกวัน
-
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
-
หลีกเลี่ยงการกัดเล็บหรือของแข็งอื่น ๆ
-
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและอุดฟันตามนัดหมาย
การดูแลรักษาครอบฟันและสะพานฟันให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
*** หากมีอาการเสียวฟันหรือปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับครอบฟันหรือสะพานฟัน ควรพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
ฟันปลอมถอดได้ Removable dentures
ฟันเทียมที่มีลักษณะคล้ายฟันธรรมชาติ แต่สามารถถอดออกได้ ฟันปลอมถอดได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามจำนวนฟันที่ต้องใส่เพื่อทดแทนฟันแท้ ได้แก่
ฟันปลอมบางส่วน (Partial denture) ใช้ในผู้ที่สูญเสียฟันบางซี่หรือบางแถว ฟันปลอมบางส่วนจะยึดติดกับฟันธรรมชาติด้วยตะขอโลหะหรือด้วยฐานพลาสติกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
ฟันปลอมทั้งปาก (Full denture) ใช้ในผู้ที่สูญเสียฟันแท้ทั้งปาก ฟันปลอมทั้งปากจะยึดติดกับเหงือกด้วยฐานพลาสติกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
-
ฟันปลอมฐานพลาสติก เป็นฟันปลอมที่ทำจากฐานพลาสติกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีซี่ฟันที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ฟันปลอมฐานพลาสติกเป็นฟันปลอมถอดได้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาไม่แพงและดูแลรักษาง่าย
-
ฟันปลอมฐานโลหะ เป็นฟันปลอมที่ทำจากฐานโลหะที่แข็งแรงกว่าฐานพลาสติก มีซี่ฟันที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ฟันปลอมฐานโลหะมีความแข็งแรงกว่าฟันปลอมฐานพลาสติก แต่อาจไม่สวยงามเท่า
-
ฟันปลอม Valplast เป็นฟันปลอมที่ทำจากฐานพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง มีซี่ฟันที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ฟันปลอม Valplast มีความยืดหยุ่นสูง จึงสวมใส่สบายกว่าฟันปลอมฐานพลาสติกหรือฐานโลหะ
ฟันปลอมถอดได้สามารถแบ่งออกตามประเภทของวัสดุที่ใช้ทำได้ดังนี้
การดูแลรักษาฟันปลอมถอดได้ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
-
ถอดฟันปลอมออกก่อนนอนและทำความสะอาดด้วยแปรงสีฟันและน้ำสบู่
-
ล้างฟันปลอมด้วยน้ำสะอาดหลังจากรับประทานอาหาร
-
เก็บฟันปลอมไว้ในภาชนะที่มีน้ำสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม
-
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและอุดฟันตามนัดหมาย
*** หากมีอาการเสียวฟันหรือปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับฟันปลอมถอดได้ ควรพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
ก่อนตัดสินใจทำฟันปลอมถอดควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินความต้องการและปัญหาเฉพาะของตนเอง ทันตแพทย์จะแนะนำประเภทของฟันปลอมที่เหมาะสมและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ***
วีเนียร์ veneers
วีเนียร์เป็นแผ่นเคลือบบาง ๆ ที่วางทับฟันหน้าเพื่อปกปิดรอยแตก ฟันผุ หรือสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอ วีเนียร์ทำจากวัสดุที่หลากหลาย เช่น เซรามิกหรือคอมโพสิต
วีเนียร์มีสองประเภทหลัก ๆ คือ
-
วีเนียร์เซรามิก เป็นวีเนียร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความแข็งแรงและสวยงามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ทำจากเซรามิกล้วนทั้งชิ้น
-
วีเนียร์คอมโพสิต เป็นวีเนียร์ที่ทำจากวัสดุคอมโพสิต วีเนียร์คอมโพสิตมีความแข็งแรงน้อยกว่าวีเนียร์เซรามิก แต่มีราคาที่ถูกกว่า
วีเนียร์เซรามิก (Ceramic veneers)
เป็นแผ่นวัสดุที่ทำจากเซรามิกที่มีความบาง นำมาติดบนผิวหน้าของฟัน เพื่อแก้ไขความผิดปกติของฟัน เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น วีเนียร์เซรามิกสามารถทำให้ฟันดูขาวขึ้น เรียงตัวสวยงาม และสม่ำเสมอกัน
-
สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ วีเนียร์เซรามิกมีความโปร่งแสงใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ
-
แข็งแรงทนทาน วีเนียร์เซรามิกมีความแข็งแรงทนทานต่อการแตกหัก
-
สามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย วีเนียร์เซรามิกสามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น
วีเนียร์คอมโพสิต (Composite veneers)
เป็นแผ่นวัสดุที่ทำจากคอมโพสิต ซึ่งเป็นวัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้ในการอุดฟัน นำมาติดบนผิวหน้าของฟัน เพื่อแก้ไขความผิดปกติของฟัน เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น วีเนียร์คอมโพสิตสามารถทำให้ฟันดูขาวขึ้น เรียงตัวสวยงาม และสม่ำเสมอกัน
-
ค่าใช้จ่ายไม่สูง วีเนียร์คอมโพสิตมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวีเนียร์เซรามิก
-
ใช้เวลาในการรักษาน้อย วีเนียร์คอมโพสิตสามารถดำเนินการได้ภายในวันเดียว
-
สามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย วีเนียร์คอมโพสิตสามารถแก้ไขความผิดปกติของฟันได้หลากหลาย เช่น ฟันเหลือง ฟันคล้ำ ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ฟันยื่น เป็นต้น
วีเนียร์เซรามิกและวีเนียร์คอมโพสิตต่างก็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความผิดปกติของฟัน แต่ก็มีความแตกต่างในคุณสมบัติและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป การเลือกวีเนียร์ที่เหมาะสมควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินสภาพฟันและความต้องการของคุณ